อิสลามดูหนังโป๊ หนังลามกจกกระเปรด บาปไหม?..

อิสลามดูหนังโป๊ หนังลามกจกกระเปรด บาปไหม? อิสลามห้ามดูหนังโป๊ คลิปเปลือย หรือสื่อลามกต่างๆ ห้ามดูเด็ดขาด ทั้งชายและหญิง ถือเป็นสิ่งหะรอมทางสายตา

หะดีษของท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวไว้ว่า ” ไม่อนุญาตให้ผุ้ชายมองเอาเราะฮฺ (สิ่งพึงสงวน) ของผู้ชาย และไม่อนุญาตให้ผู้หญิงมองเอาเราะฮฺของผู้หญิง ” (บันทึกโดยอบูดาวูด)

หะดีษของท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า ” การมองสตรีโดยมิได้ตั้งใจถือว่าไม่มีความผิด แต่หากมองซ้ำอีก (เป็นครั้งที่สอง) ถือว่ามีความผิด ” (บันทึกโดยติรมิซีย์)

อีกหะดีษบทหนึ่งท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า ” การทำซินา (การละเมิดประเวณี) ทางสายตา คือการมอง(สิ่งหะรอม) ” (บันทึกโดยติรมิซีย์)

จากหะดีษทั้งสามข้างต้นเป็นการบ่งชี้ว่า ศาสนาไม่อนุญาตมองเพศตรงข้าม อย่าว่าแต่มองเอาเราะฮฺของเพศตรงข้ามเลย แม้กระทั่งการมองหน้าเพศหญิงศาสนายังอนุญาตให้มองเพียงครั้งแรกเท่านั้น หากมองซ้ำอีกเป็นครั้งที่สองก็ถือว่ามีความผิด (นักวิชาการลงความเห็นว่า หากมองครั้งแรกแต่มองนาน เช่นนี้ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน)

ฉะนั้น การชมภาพยนต์โป๊ศาสนาจึงไม่อนุญาตให้ชมโดยเด็ดขาด เพราะนั่นเป็นการมองเอาเราะฮฺของคนอื่น

ประการที่สอง เป็นการทำซินาทางสายตา

ประการที่สาม การชมภาพยนต์โป๊เป็นการยั่วยุ และกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ

และประการสุดท้าย การชมภาพยนต์โป๊เป็นสื่อกระตุ้นให้เกิดทำซินา เมื่อสิ่งใดเป็นสื่อไปสู่การทำซินาก็ถือว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามด้วย

ดั่งหลักฐานในอัลกุรอานที่กล่าวว่า ” อย่าเข้าใกล้การทำซินา แท้จริงการทำซินาเป็นสิ่งลามก และหนทางที่ชั่วร้าย ” (สุเราะฮฺอัลอิสรออ์ : 17) เมื่อทราบแล้วว่าไม่อนุญาตให้ดูหนังโป๊ครับ

เหตุผลที่ศาสนาอิสลาม ห้ามดูหนังโป๊ ห้ามมุสลิมยุ่งเกี่ยวกับ “สื่อลามก” ในทุกๆรูปแบบ:

จากบทความแนะนำข้างบนนี้ ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า การมีความยำเกรง (อัต-ตักวา) ต้องปฏิบัติสิ่งที่อัลลอฮทรงใช้ ละทิ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม หมายรวมถึงแบบอย่างที่ท่านร่อซู้ลทรงวางไว้ที่เราต้องปฏิบัติตามด้วย “ตักวา” เป็นสิ่งสำคัญสุดยอด

สื่อลามกเป็นศัตรูโดยตรงต่อแก่นคำสอนของศาสนาอิสลาม, ซึ่งเน้นให้เห็นด้วยคำว่า “ตักวา” การมีความยำเกรงต่อพระเจ้า, แสดงให้เห็นถึงความมีศรัทธาที่แท้จริงต่อพระเจ้า เพื่อที่จะได้เพิ่มความแข็งแกร่งในการควบคุมตัวเอง,ตามแนวทางของและจริยาธรรมของศาสนาอิสลาม

ศาสนาอิสลาม ห้ามไว้อย่างแจ้งชัดในการมองอวัยวะเพศ ของผู้หนึ่งผู้ใด, กฏข้อนี้รวมไปถึงรูปภาพหรือภาพยนตร์,วิดีโอ ที่มีภาพที่สื่อไปในความลามกทางเพศ, การที่ศาสนาอิสลามห้ามในเรื่องลามกเหล่านี้ก็เพื่อให้จิตวิญญาณของมุสลิมมีความมั่นคงต่อความศรัทาต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง

ความขัดแย้งกันภายในจิตใจของบุคคลระหว่างทัศนคติที่นิยมภาพลามกทางเพศ กับสัญชาตญาณความเคารพต่ออัลเลาะห์ที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นที่ตระหนักถึงหรือไม่ก็ตาม มันจะทำให้เกิดสภาวะของความตึงเครียดที่นำไปสู่การล่มสลายของจิตวิญญาณ ที่จะนำไปสู่ความโศกเศร้าและภาวะซึมเศร้าและการสูญเสียความนับถือตนเอง

สิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ ศาสนาอิสลาม ห้ามสื่อลามกโดยถือว่า สื่อลามก เป็นแรงทำลายพื้นฐานคุณงามความดีของบุคคลและสังคมโดยรวม

จากคัมภีร์กุรอ่านบัญญัติที่ 24:30 บัญญัติไว้ว่า

“จงบอกแก่บรรดาบุรุษผู้มีศรัทธา ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษาอวัยวะเพศของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ”

และในบัญญัติที่ 24:31 บัญญัติไว้ว่า

“และจงบอกแก่บรรดาสตรีผู้มีศรัทธา ให้พวกนางลดสายตาของพวกนางลงต่ำ และให้พวกนางรักษาอวัยวะเพศของพวกนาง และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่สิ่งที่พึงเปิดเผยได้ และพวกนางต้องปิดด้วยผ้าคลุมศีรษะของนางลงมาถึงหน้าอกของนาง และอย่าให้นางเปิดเผยเครื่องประดับของพวกนาง เว้นแต่แก่สามีของพวกนาง…..”

อัลกุรอาน บัญญัติที่ 2:187 อธิบายให้เรารู้ว่า สามีภรรยาเป็นของกันและกัน ในเรื่องของความสัมพันธ์ทางเพศ,เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักคุณธรรมและจริยาธรรมของศาสนาอิสลาม..และเป็นสื่งที่ดี หรือ ดีกว่า การแสวงหาความสัมพันธ์ทางเพศตามอารมณ์ใคร่,จากภายนอกการสมรส,การเสาะแสวงหาการผ่อนคลายอารมณ์ใคร่นอกการสมรสเป็นการฝ่าฝืนบัญญัติของพระเจ้า

“มุมิน” หรือ “มุสลิม” ที่เรียกว่าเป็นผู้ที่ยึดมั่นต่อหลักความศรัทธาของศาสนาอิสลามอย่างถูกต้องและเคร่งครัด จึงจำเป็นจะต้องออกห่างจากการ เกี่ยวข้องกับ สื่อลามก ทุกๆชนิด และทุกๆรูปแบบ, และเป็นหน้าที่ของ “มุมิน” ทุกๆท่านที่จะว่ากล่าวตักเตือน เมื่อเห็นมุสลิมผู้หนึ่งผู้ใด หลงผิดในเรื่องนี้,ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากไม่เข้าใจหลักการของอิสลามที่ถูกต้อง, ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของสังคมมุสลิมของผู้ที่มีการศึกษาและความรู้ทางศาสนาที่ถูกต้องจะต้องช่วยกันตักเตือน ให้เขาผู้นั้นเข้าใจถึง การมีความยำเกรง (อัต-ตักวา) ต่ออัลลอฮ์ตะอาลา

ที่มาข้อมูล: https://islamhouse.muslimthaipost.com/article/22222

วัลลอฮฮุอะลัม